3/19/2551

ซูดๆๆ ยาดมพม่าซ่าจมูกวุ้ย!!



  เป็นที่ฮอตฮิตกันมากสําหรับยาดมพม่าฝาเขียวอันนี้ เนื่องด้วยสรรพคุณของมันที่ดมแล้วเหมือนได้restartช่องจมูก นอกจากนั้นแล้วยังมีกลิ่นที่หอมชวนดม แต่ประเด็นที่จะนํามาวิเคราะห์วันนี้ ก็จะขอพูดเกี่ยวกับฉลาดและการออกแบบของเจ้าขวดยาดมพม่าชนิดนี้กันดีกว่าเนอะ
อย่างแรกเลยมาดูกันที่ตัวขวดก่อน ผมว่ามันมีขนาดที่ใหญ่เทอะทะไม่เหมาะกับการพกพาใส่กระเป๋ากางเกงก็จริง
แต่ในทางกลับกันมันก็มีขนาดพอดีมือ จับแล้วรู็สึกเต็มไม้เต็มมือพอดี เหมือนกับช่วยเพิ่มความรู้สึกว่า  
"  เฮ้ยแมร่งแรงแน่ๆยาดมนี้ " และนอกจากนั้นด้วยขนาดที่ใหญ่ขนาดนี้ส่วนตัวผมเอง
ก็ยังไม่เคยเห็นยาดมที่
มีขนาดเท่านี้แหละคิดว่าหลายๆคนก็คงคิดแบบเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทําให้สนใจเจ้ายาดมตัวนี้เป็นพิเศษ

เอาหล่ะแวะเข้ามาดูในขวดกันหน่อย เป็นที่น่าประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นการทิ้งspace ในขวดยาดมพม่า ตัวสมุนไพรนั้น
ใส่ไว้แค่ประมาณ12%(กะ
ด้วยตา) ในขวดเท่านั้น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ของอากาศที่คลุกเคล้าไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพร
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าตัวยา
สมุนไพรเองก็ต้องการพื้นที่ให้ตัวยาให้อบอวลในขวด เพื่อที่เปิดมาแล้วสามารถดมได้ทันที
โดยที่ถ้าเราใส่สมุนไพรไว้เต็
มขวดก็อาจจะทําให้ไม่มีพื้นที่ในการที่ตัวยาจะเข้าไปผสมกับอากาศ
และจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่หลายคนสงสัยว่าทําไมต้องมีพื้นที่ไว้เยอะขนาดนี้ทั้งที่ตัวยามีนิดเดียว


ส่วนสุดท้ายคิดฉลากส่วนตัวผมรู้สึกสนใจมันนะ แต่เวลาใช่งานจริงก็รู้สึกว่ามันไม่เท่เท่าไรที่ต้องควักกระปุกนี้ออกมาดมต่อหน้าคนอื่น เพื่อนผมหลายๆคนรู้สึกสนใจกับฉลากของเจ้ายาดมพม่าชนิดนี้ ผมว่าส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเป็นของจากต่างถื่น
ทั้ง typography และ graphic จึงดูไม่คุ้นตานัก แต่หากถ้าเรามองกันที่โทนสีและการวาง layout แล้วก็จะเห็นได้ว่าก็ไม่ได้ต่าง
อะไรกับการออกแบบป้ายงานวัดในประเทศเรา ถึงจะดูบ้านๆไปนิดแต่ในตัวฉลากเองก็มีการแก้ปัญหาทางการออกแบบหลายๆอย่างให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นแถบขาวที่เอาไว้เปลี่ยนวันที่ผลิตบ่อยๆ มีการจัด alignment ของ typography โดยจัดเสมอซ้าย
มีการขีดเส้นใต้เพื้อเน้นความเป็นตัวข้อและสะดวกต่อการกาข้อมูล มีจุดเด่นของขวดและมี logo ที่มองเห็นได้ชัดเจน
ส่วนตัวผมถือว่าค่อนข้างจะลงตัวในของลักษณะนี้

สุดท้ายถ้าใครทํางานง่วงๆหรือชอบเผางานดึกๆเนี่ย แนะนําพกไว้ซักกระป๋องรับรอง2-3ฝึดนี้ คืนชีวิตแน่นอน
แล้สถ้าใครผ่านไปเจออย่าลืมซื้อมาฝากกันบ้างจะเอาไว้สํารองครองใจ



3/16/2551

ห่างหายไปนานกับการเดินทางบนรถตู้เสารีด่วนโทเวย์


หลังจากที่ขี้เกียจกระดิกนิ้วเขียน blog ก็มีในห้วงความคิดว่าอยากจะลงมือเขียนอะไรต่อซักนิดก็ยังดี และก็พยายามบอกกับตัวเองให้เขียนเรื่องต่างๆ ไว้เพื่อrecheckและเตือนความจําตัวเอง 
มีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเดินทางปฝึกงานตอนเช้า ผมใช้รถตู้ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพวิทยาเขตรังสิตในการเดินทาง พอขึ้นไปบนรถหลังจากที่เห็นทุกคนเตรียมพร้อมที่จะจ่ายเงินค่ารถตู้แล้ว ก็จะเริ่มเห็นอาเฮียอาซ้อเริ่มแกะหูฟังกัน
เป็นที่น่าแปลกใจจากการที่คอยสังเกตุมาระยะหนึ่ง ก็พบว่าผู้ชายวัยออฟฟิตเดาว่าอายุน่าจะ30upแต่ไม่เกิน50 มักจะไม่ค่อย
ชอบพันสายหูฟังให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และพบว่าส่วนมากก็มักจะเป็นผู้ชายเสียด้วย จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีสาระอะไรมาก
และถ้ามาคิดตามตรรกะง่ายๆ ก็น่าจะเป็นจากปัจจัยเรื่องเพศ อายุ บทบาทหน้าที่ ที่เป็นตัวแปรของลักษณะการเก็บสายหูฟัง
ก็อย่าคิดอะไรกันมาก พอดีเห็นเลยอยากจะหาเรื่องเขียนไปงั้นๆ จริงๆอยากจะเอางานที่ฝึกงานมาลงให้ดูแต่ดูเหมือน
จะเป็นการผิดมารยาทในการทํางาน เลยขอไม่ลงให้ดูละกัน