11/10/2550

กัลยาณมิตรตะลุยแดนมังกร ภาค เมืองจีนอินไทย


หลังจากลงจากแท็กซี่เจ้าปัญหาแล้ว ข้าพเจ้าและผองเพื่อนผู้แสนดี ก็ได้เดินสายโดยเริ่มจากสําเพ็งก่อน หลังจากเดินได้ระยะหนึ่งก็ สังเกตุในเรื่องของป้ายต่างๆซึ่งนิยมใช้สีทอง บนตัวอักษร ซึ่งจากการคาดเดาก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของเรื่องความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย


พอเดินไปจนถึงร้านขายผ้าก็พบ ป้ายกิ๊บเก๋ซึ่งด้วยสีและพื้นผิวของป้ายที่ถูกลอกออกมา ก็ทําให้ดูน่าสนใจไปอีกแบบ ถัดไปอีกนิดก็พยป้าย “ ไท่เพ็งโกย “ ซึ้งถ้ามองจากไกลๆน่าจะมีปัญหาในเรื่องของการมองเห็น เนื่องจากใช้ ตัวอักษรแบบ outline ซึ่งถูกแบอยู่บนโครงเหล็ก อาจจะทําให้คนดูสับสนได้ แต่ส่วนตัวข้้าพเจ้ากลับมองว่ามันก็น่าสนใจไปอีกแบบ



พอเดินมาถึงโซนขายของส่ง ก็จะสามารถพบเห็นกระดาษสีสะท้อนแสงแสบตาแวววับจับใจ ถ้ามองสิ่งเหล่านี้ด้วยรสนิยมส่วนตัว อาจจะต้องบอกตามตรงว่า ดูเห่ยมาก แต่ถ้าลองมาคิดอีกแง่จะเห็นการแก้ปัญหาแบบบ้านๆของร้านเหล่านี้ สีสะท้อนแสงพวกนี้มันตัดกันดี กับสินค้าในร้านรวมทั้งสภาพแวดล้อมข้างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าทําให้มองเห็นได้ง่ายและยังดึงดูดสายตาของข้าพเจ้าอีกด้วย


ตอนนี้เราก็มาถึงเยาวราชเมืองคนจีนแล้ว คุณฟานเชสโก้ ออกอาการอิดโรยเล็กน้อย ส่วนคุณโอแซนคิง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเคยเป็น ” เจ้าถิ่น “ แถวนี้มาก่อนก็ได้ขออาสาแกมบังคับ ในการเป็นผู้นําทางให้กับผู้ด้อยเส้นทางทั้งสอง นาทีแรกที่ถึงเยาวราช เราก็ต้องตะลึงกับจํานวนป้ายอันมากมายมหาศาลราวกับฝูงตั๊กแตนที่ทําลายไร่ในแอฟริกาก็ไม่ปาน

------------------------
---------------------------------------------




---------------------------------------------------------------------


นอกจากป้ายแล้วที่นี่ยังอุดมไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ ซึ่งอาจจะหนักไปทาง อาม่า อาอง อาอํ้ม อาซ้อ แล้วก็บรรดาเจ้ๆขาใหญ่ที่คอยโชว์พาวในโซนที่แกขายของ น่าแปลกที่การใส่แว่นดําของพวกเรากลับทําให้ตกเป็นเป้าสายตาของคนเหล่านี้ พวกเราทั้งสามคนตัดสินใจกันว่านอกจากจะมาวิเคราะห์แล้ว ยังกะมีการสัมพาทย์ เหล่าบรรดาคนในที่นั้น รวมทั้งชาวต่างชาติที่มาเที่ยว ว่ามีความคิดเห็นยังไงกับที่นี่
หลังจากเดินหาเหยื่อด้วยความกล้าๆกลัวๆก็สังเหตุเรื่องป้ายเรื่องอะไรไปพลางๆ ก็มองเห็นตู้โทรศัทพ์ซึ่งพยายามทําให้เข้ากับดินแดนมังกรแห่งนี้




ถามข้าพเจ้าว่าชอบไหม ก็ต้องตอบตามตรงว่า ชอบ ในเหตุผลในเรื่องของการทําให้เข้ากับสถานที่ แต่ข้าพเจ้าเองก็มีคําถามตามมาว่า แล้วมันจําเป็นต้องยัดเยียดความเป็นจีนขนาดนี้เลยหรือ?
บางทีแค่สีแดงก็อาจจะเพียงพอกับการทําให้กลมกลืนแล้วหรือเปล่า จุดที่น่าแปลกใจอีกจุดก็คือสถานที่อย่
างสําเพ็ง ซึ่งก็มีตู้ในลักษณะนี้ทั้งๆที่ไม่ได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเลย ก็เลยทําให้
ในความรู้สึกของข้าพเจ้ายังรู้สึก ขาดๆเกินๆกับที่นี้อยู่ แต่ก็นับว่ายังดูยัดเยีอดน้อยกว่าตู้ที่พยายา
มจะทําตัวให้เป็นไทยที่โซนสยาม ในคณะที่สภาพแวดล้อมโครตจะหลากหลายละลานตา


ที่น่าสังเกตุอีกอย่างก็คือสีของป้ายก็มีความคล้ายคลึงกันมาก การใช้สีแดงหรือทองในป้ายที่เยาวราชนั้นเป็นเรื่องที่แสนจะปกติเหลือเกิน จากที่ข้าพเจ้าคิด สีของป้ายเหล่านี้น่าจะมาจากความ
เชื่อของคนจีนที่มีต่อสีเหล่านี้ อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของอาชีพในระแวกนี้ก็รู้กันอยู่ว่า นอกจากขายของไม่ว่าจะเป็น ยาจีน ไปถึง เกาลัดคั่วมรณะ สิ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันเลยคือการขายทอง ซึ่งถ้าป้ายหน้าร้ายมีการใช้สีทอง นอกจากเรื่องของความเชื่อแล้วก็ยังน่าจะสื่อได้ถึงตัวสินค้าที่ขายด้วย



และแล้วโอแซนคิง ก็ได้ตัดสินใจที่จะซื้อเสื้อตี๋ตระกูลซ่ง จากป้าคนหนึ่งซึ่งหลังจากซื้อเสร็จข้าพเจ้าได้ใช้ วิธีที่กลุ่มข้าพเจ้าเรียกมันว่า “ การตลกแดก “ ตะล่อมถามป่้าแกเกี่ยวกับเรื่องป้ายและสถานที่ในเยาวราชนี้ โดยป้าแกได้ให้คําตอบว่า

“ สีแดง สีทอง ก็เป็นความเชื่อของคนจีน เกี่ยวกับเรื่อง สิริมงคล “

“ อีกเดือนคนก็จะมาซื้อเสื้อจีนกันเยอะมาก ก็ที่นี้คนจีนอะไรก็จีน “


ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเยาวราชเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานความเชื่อเข้ากับการออ
กแบบ
ซึ่งเป็นอย่างที่หลายๆคนรู้กันในวงการออกแบบเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบโลโก้ ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งตัวผู้บริหารเองก็เป็นคนจีน ซึ่งมีความเชื่อแบบจีนๆ และนําความเชื่อนั้นเข้ามาใส่ในงานออกแบบ


เมื่อเดินกันไปอีกซักพักก็พบฝรั่งผู้ดีคนหนึ่ง โอแซนคิงได้สละชีวิตเข้าไปถามแต่ยังไม่ทันที่จะได้ทําแบบนั้น ฝรั่งคนนั้นทําท่าโบกมือปัดป้อง เหมือนจะต้องการบอกว่า “ อย่ามายุ่งกับ i ”
พร้อมส่งสายตาอันไร้เยื้อใยซึ่งต่างจากนโยบายของนํ้าผลไม้ยี่ห้อหนึ่งที่บอกว่า มีเนื้อผสมอยู่ถึง 10 %


จากนั้นเราก็เดินหาเหยื่อชาวชาติชาติอย่างไม่ย้อท้อ จนสวรรค์ บรรดาลให้พบกับคุณเฟสเดอริก
โดย ขอขอบคุณ คุณฟานเชสโก้ ไว้ ณ ที่นี้ในฐานะล่ามสาระพัดประโยชน์

คิดยังไงกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ครับ

“ มัน Amazing มาก คุณคิดดูสิมีที่แบบนี้อยู่ใน Big city ด้วยที่่
Amsterdam เป็นเมืองใหญ่กลับไม่เป็นแบบนี้
ผมเป็นคนฮอลแลนด์ เมื่อสองวันก่อนผม เพิ่งมากจากที่หาด บอมเบย์ ที่นั้นเงียบมาก ซึ่งคุณก็
น่าจะเห็น Contrast ระหว่างที่นั้นและที่นี่เหมือนขาวกับดํา เอ๊! ในภาษาจีนเรียกว่าอะไรนะ
อ๋อใช่ !! ยิ๋น ย่าง (หยิน หยาง) คุณ เฟสเดอริด ชี้นิ้วประกอบการพูด


แล้วคิดถึงไงกับกราฟิกและป้ายของที่นี้

“ ผมอ่านมันไม่ออกหรอก เพียงแต่ก็พอรู้ว่าเป็นอะไรจีนๆ “

หลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องอื่นกันต่อก่อนที่จะโบกมือลาพร้อมนํ้าตาลูกผู้ชายไว้ลายลูกเสือสํารอง
ซึ่งหลังจากได้คุยกันประมาณ10นาทีหรือมากกว่านั้น ผมรู้สึกผูกพันกับชาวดัชด์คนนี้ในระดับเบื้องต้น ก็เพิ่งได้รู้ว่าการแลกเปลี่ยนกับคนที่คิดอะไรจากวัฒนธรรมที่ต่างกันมันจะสนุกแบบนี้

ข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนจีนทําให้พ่อและแม่ต้องมาซื้อของที่นี่เป็นประจําก็รู้สึกเฉยๆกับสถานที่น
ี้


ข้างๆกันมีอาซิมกําลังขายซิมของ happy อยู่ซึ่งก็น่าสนใจตรงที่ร่มของ happyนั้นก็ถูกออกแบบมาเพื่อที่นี่ด้วย

---------------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------------------

แถมอีกนิดร้านเจ้ขายนํ้าบ๊วยก็อยากจะจีนกับเค้าด้วย





( ขอขอบคุณคนที่ขอบคุณไปเมื่อตอนที่แล้ว)

ไม่มีความคิดเห็น: